ต้นทางสวรรค์
กระผมจึงเริ่มต้น ปลูกฝังคุณธรรมด้านความกตัญญูรู้คุณบิดามารดาก่อน โดยทดสอบความเข้าใจของพวกเขา จากการป้อนคำถามทีละคำถามครับ ตอนแรกกระผมถามพวกเขาว่า “ถ้าพ่อแม่ให้กำเนิดลูกแล้ว ไม่ได้เลี้ยงดู พ่อแม่เช่นนี้ ถือว่าดีหรือไม่”
คันได้แต่ห้ามปวด
เรื่องราวตัวอย่างของการชิงช่วงช่วงชิงในตอนที่ใกล้จะละโลก...ชายคนหนึ่ง ในช่วงที่คุณแม่ของเขาป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล เขาได้ทำหน้าที่ของยอดกัลยาณมิตร ช่วยให้คุณแม่ของเขานึกถึงบุญ อยู่ในบุญ และยังสวดมนต์ให้ท่านฟังด้วย ผลแห่งการกระทำดังกล่าว ช่วยคุณแม่ของเขาได้หรือไม่ อย่างไร...และกับคำถาม การที่เราไม่มีเจตนาจะฆ่าสัตว์แต่ต้องทำเพราะผู้ใหญ่ให้ทำ จะมีผลมากน้อยอย่างไร และจะแก้ไขอย่างไร
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 67
ในระหว่างเดินทาง มโหสถเป็นห่วงว่านางจะได้รับความลำบาก จึงได้มอบร่มและรองเท้าให้แก่นาง พร้อมกับกล่าวว่า “อมรา น้องรัก เจ้าจงรับร่มและรองเท้าคู่นี้ไว้เถิด เพราะหนทางข้างหน้ายังอีกไกลนัก หากมีร่มกั้นเสียหน่อย ถึงแดดจะแผดกล้าเพียงใด ก็ไม่อาจแผดเผาผิวกายของเจ้าได้ และหากว่าเจ้าได้สวมใส่รองเท้าคู่นี้ ก็จักช่วยป้องกันเสี้ยนหนามตามทางได้เป็นอย่างดี”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 66
มารดาของอมรา ครั้นได้เห็นงานเย็บชุนผ้าเสร็จเร็วอย่างอัศจรรย์เช่นนั้น ก็พิศวงยิ่งนัก เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา นางยังไม่เคยพบเห็นช่างชุนคนใดที่จะคล่องแคล่วเชี่ยวชาญเหมือนอย่างชายผู้ นี้เลย ส่วนว่า มโหสถบัณฑิตครั้นเย็บชุนผ้าเสร็จแล้วจะคิดอ่านทำประการใดอีกนั้น โปรดติดตาม
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 65
หลังจากที่ได้สนทนากันมาพอสมควร มโหสถก็พอจะหยั่งรู้ว่า นางอมราเป็นหญิงที่มีความฉลาดหลักแหลมอยู่ไม่น้อย อีกทั้งไหวพริบปฏิภาณของนางก็ว่องไวต่างจากหญิงทั่วไป ครั้นมั่นใจในตัวนางเช่นนี้แล้ว มโหสถก็มิได้ถามอะไรอีก เอาแต่จ้องมองดูนางด้วยความพึงพอใจ ส่วนว่า มโหสถจะได้นางมาเป็นคู่ครองด้วยวิธีการใดนั้น โปรดติดตาม
เรียนอ่อนเพราะความจำสั้นไม่เก่ง
มงคลที่ ๘ มีศิลปะ - แก้ปัญญาหาด้วยปัญญาอันลึกซึ้ง (๑)
มื่อเรามองผ่านแสงสว่างภายใน เราจะเห็นโลก เห็นภพ และสรรพสิ่งไปตามความเป็นจริง เห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ยิ่งกว่าการมองผ่านแสงสว่างภายนอก ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดภาพลวงตาได้ แต่แสงสว่างภายในที่เกิดเมื่อใจบริสุทธิ์หยุดนิ่ง จะทำให้เรารู้เห็นไปตามความเป็นจริงของสิ่งที่มีอยู่จริงๆ เพราะว่าเป็นความสว่างที่เกิดจากความบริสุทธิ์ของดวงจิต
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 6
อาจารย์เสนกะจินตนาการไปไกลว่า “หาก มโหสถกุมารนี้ได้เข้ามาอยู่ในราชสำนักเมื่อใด เราก็คงหมดความสำคัญ แม้พระราชาก็จักทรงลืมเราไปเสียสิ้น ไม่ช้าเราก็จะตกต่ำหมดรัศมี แม้ลาภ ยศ บริวาร และความเป็นใหญ่ก็จะพลอยสูญสิ้น จำเราจะต้องกราบทูลทัดทานไว้ก่อน”
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 5
ในที่สุดศาลาหลังนี้จึงปรากฏว่าสง่างามล้ำสมัย เปรียบได้กับสุธรรมาเทวสภาบนสรวงสวรรค์ ได้ชะลอมาสู่ภพมนุษย์ ด้วยเหตุที่มโหสถบัณฑิตได้จัดการทุกสิ่ง โดยมุ่งเพิ่มพูนทานบารมีของตนให้ยิ่งๆขึ้นไป ศาลาหลังนี้จึงได้ก่อประโยชน์แก่มหาชนเป็นอันมาก ในกาลนั้น มโหสถบัณฑิตได้รับความเคารพ นบนอบ บูชา ได้เป็นเสมือนกาลสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์น้อยๆ เสด็จอุบัติขึ้นในโลกทีเดียว
มงคลที่ ๔ อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม - ทําสิ่งแวดล้อมให้เป็นปฏิรูปเทส ( ๑ )
นางตั้งใจทำหน้าที่ของศรี สะใภ้ที่ดีได้ครบสมบูรณ์ทุกอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่นางปรารถนามากๆ และยังไม่มีโอกาสทำ คือ การถวายสังฆทานแด่ภิกษุสงฆ์ เพราะตระกูลฝ่ายสามีเป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา แต่ไปศรัทธาในลัทธิ ชีเปลือยด้วยความเข้าใจผิดว่า ชีเปลือยเหล่านั้นเป็นพระอรหันต์
ปู่บุญ
ชาวนาผู้หนึ่ง เขาเคยบวชเป็นสามเณร มีความรักในเพศสมณะ เป็นที่ยอมรับนับถือของผู้คนจำนวนมาก แต่ด้วยวิบากกรรมเก่า ทำให้เขาต้องลาสิกขาออกมาเพื่อช่วยพ่อ-แม่ ทำมาหากิน เขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกในเรื่องความขยันอดทน และไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่...เขารักในการปฏิบัติธรรม จนมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี จนตัวเขาเองถึงกับปรารภว่า “ถึงตายก็ไม่เสียดายชีวิต เพราะมีพระธรรมกายเป็นที่พึ่งอันประเสริฐแล้ว”...
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒ ( สืบหาบัณฑิต )
การที่เรากระทำสิ่งใดลงไปก็ตาม สิ่งนั้นสามารถส่งผลเชื่อมโยงถึงกันได้ ยิ่งปัจจุบัน เราอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์ ที่ข้อมูลข่าวสารถึงกันหมด หากเรากระทำสิ่งที่ไม่ดี ย่อมจะเกิดผลกระทบเสียหายต่อคนรอบข้างและคนทั้งโลก เหมือนไม้ขีดไฟก้านเดียวสามารถลุกลามเผาป่าเผาเมืองได้ แต่หากเรากระทำความดีแม้เพียงเล็กน้อย และแม้จะกระทำกันเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ก็สามารถขยายผลแห่งความดีไปทั่วโลกและจักรวาลได้