จดหมายจากกองพันเนื้อนาบุญ ตอน จะย่ำทุกก้าวให้เห็นดวงสว่างภายใน
หลวงพ่อครับ ที่ผมมาบวชไม่ใช่ว่าเบื่อทางโลกนะครับ แต่พอบวกลบคูณหารชั่งน้ำหนักดูแล้ว ก็รู้ว่าเราสุขเท่าไหร่-ทุกข์เท่าไหร่ ชีวิตมันไม่มีแก่นสาร ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ ผมอยากหาแก่นสารในชีวิตเลยอยากบวชครับ
จดหมายจากกองพันเนื้อนาบุญ ตอน จะทำทุกก้าวให้เป็นองค์พระใสสว่าง
พระธรรมทายาทสิงห์ เตชาธิโก อายุ 48 ปี บวชในโครงการ 1 แสนรูป รุ่นเข้าพรรษา ของศูนย์อบรมในจังหวัดสุโขทัยครับ ผมทำบุญกับวัดพระธรรมกายมาหลายปีแล้ว โดยค่อยๆศึกษาเรื่องการสร้างบารมีมาเรื่อยๆ พอเข้าใจแล้วผมก็ลุยทุกโครงการ ทั้งทำด้วยตัวเองและชวนคนอื่นทำครับ(ภาพที่ 1) การได้มาบวชในโครงการของหลวงพ่อ ทำให้ผมได้ความรู้หลายอย่าง ได้เรียนรู้ว่าการจะเป็นพระแท้นั้นต้องทำอย่างไรถึงจะไม่ติดหนี้ญาติโยม ซึ่งผมก็พยายามฝึกทั้งเรื่องการวางตัวและการวางใจครับ
จดหมายจากกองพันเนื้อนาบุญ ตอน จะทุ่มชีวิตเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา
กระผมพระธรรมทายาทณัฐวุฒิ ภทฺรวโร อายุ 43 ปี ครับ ผมเคยบวชสามเณร 5 พรรษา และเคยบวชพระมาแล้ว10 กว่าพรรษาครับ แต่ตอนนั้นต้องลาสิกขาไปเพราะไม่มีใครดูแลโยมพ่อ ทำให้รู้ว่าชีวิตทางโลกหรือจะสู้ทางธรรม แต่ถ้าไม่มีวันนั้น ก็จะไม่มีวันนี้ ที่ได้มาบวชที่วัดพระธรรมกายครับ
จดหมายจากกองพันเนื้อนาบุญ ตอน ทุ่มชีวิตฝึกตนเตรียมบูชาธรรมพระผู้ปราบมาร
กระผมพระธรรมทายาทวรุตม์ ธัญฺญวโร อายุ 22 ปี เพิ่งจบปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล ที่จริงผมวางแผนว่าเมื่อจบปริญญาตรีแล้วจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่ฮ่องกงทันทีครับ ซึ่งได้ติดต่อเดินเรื่องเอาไว้หมดแล้ว แต่ในใจมันยังไงไม่รู้ มันนึกอยากบวช ก็เลยมาบวชทั้งๆที่ยังไม่ได้รับปริญญาเลยครับ
จดหมายจากกองพันเนื้อนาบุญ ตอน ทุกก้าวที่ย่ำพร้อมทุ่มใจเพื่อพระพุทธศาสนา
ผมเป็นชาวอิตาลี และนับถือศาสนาคริสต์ครับ แต่ผมก็มาบวช เพราะมีหลวงพ่อให้ความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องศาสนาพุทธ ผมมาอยู่ที่เมืองไทยได้ 4 ปีแล้วครับ อยู่ตรงคลองสาม ห่างจากวัดพระธรรมกายแค่ 3 กิโลเมตร ครั้งแรกที่ผมเห็นหลวงพ่อในทีวี ผมถามเทพธิดาข้างกายว่า “ทำไมมีพระออกทีวี...ฉันไม่เข้าใจ” และถามอีกว่า “หลวงพี่คนนี้เป็นใคร” เธอก็บอกว่า “นี่คือหลวงพ่อ ไม่ใช่หลวงพี่” ผมดูหลวงพ่อแล้วก็ยิ้ม และพอได้รู้จักหลวงพ่อแล้วผมก็มาวัดทุกวันเลยครับ ผมเคยบวชครั้งแรกในโครงการไอดอป 2 ซึ่งมีคนมารวมกันจากหลายประเทศ ถึงจะคุยกันไม่รู้เรื่องแต่เราก็สามารถสื่อสารกันได้ครับ และก่อนที่จะลาสิกขาผมสัญญากับหลวงพ่อไว้ว่าจะกลับมาบวชอีก ซึ่งผมได้ทำตามสัญญาแล้วนะครับ
จดหมายจากกองพันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
ย้อนไปเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ผมประสบกับภาวะล้มละลาย ตอนนั้นมืดมิดคิดอะไรไม่ออก ลืมแม้กระทั่งบุญ..ทั้งที่รู้จักวัดมาตั้งแต่สร้างพระมหาธรรมกายเจดีย์ ผมขับรถไปบนสะพานแขวน กะจะไปโดดสะพาน ความรู้สึกตอนนั้นมันเคว้งคว้างเหลือเกินครับ
จดหมายจากใจพระอินทะญานะ
วัดพระธรรมกายมีแต่สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ อย่างนิทรรศการความลับของชีวิต เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยดูเพราะไม่เคยมีจัดขึ้นในเมียนม่าร์ ผมเชื่อว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถ้าได้มาดูนิทรรศการนี้ ทุกคนจะกลับตัวกลับใจมาประพฤติดีประพฤติชอบ ผมว่าการสอนด้วยหนังสือบอกด้วยปากตั้งร้อยครั้งพันครั้ง ยังสู้การดูนิทรรศการนี้..เพียงครั้งเดียวไม่ได้เลย การจัดนิทรรศการแบบนี้ไม่อยากให้มีแต่ที่นี่ที่เดียว ทุกๆที่ทุกประเทศที่เป็นเมืองพุทธก็น่าจะให้มีนิทรรศการแบบนี้ อย่างที่ทวายเองก็อยากให้มีจัดแบบนี้บ้างครับ
จดหมายจากกองพันเนื้อนาบุญ ตอน ทุกย่างก้าวเพื่อบูชาธรรมคุณครูไม่เล็ก
กระผม พระธรรมทายาทธนะวรรธน์ สุรโชโต หรือ พระแสตมป์ อายุ 21 ปี บ้านผมอยู่ที่คลองสามนี่เองครับ และเป็นอาสาสมัครอยู่แผนกธรรมโฆษก์ คอยเล่าธรรมะให้สาธุชนฟังทุกวันอาทิตย์ด้วยครับ ผมเคยบวชสามเณรมาหลายโครงการ เช่น โครงการมัชฌิมธรรมทายาท รุ่นที่ 6-7-8, โครงการ 1 แสนรูป รุ่นเข้าพรรษาปี 53, โครงการอุดมศึกษา รุ่นที่ 41 แต่ครั้งนี้ผมได้บวชเป็นพระในโครงการบูชาธรรมพระมงคลเทพมุนีฯ รุ่น 130 ปี ครับ
มหาอุกกุสชาดก ชาดกว่าด้วยการผูกมิตร
บุคคลพึงคบมิตรสหายและเจ้านายไว้ เพื่อได้รับความสุข เรากำจัดศัตรูได้ด้วยกำลังแห่งมิตร เป็นผู้พร้อมเพรียงด้วยบุตรทั้งหลาย บันเทิงอยู่เหมือนเกราะที่บุคคลสวมแล้ว ป้องกันลูกศรทั้งหลายได้ ฉะนั้น
จดหมายจากพระอินทะยานะ เมืองทวาย ประเทศเมียนม่าร์
ในความสำเร็จของงาน 3 บุญใหญ่แห่งเมืองทวาย เป็นครั้งแรก และครั้งประวัติศาสตร์ที่จะต้องจดจำจารึกไว้ ถึงความร่วมมือร่วมใจในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาร่วมกันของภูมิภาคอาเซียน อันเป็นการเตรียมเปิดรับ AEC ในปีหน้า