มงคลที่ ๒ คบบัณฑิต - สัมมาทิฎฐิ (๙)
พระเจ้าอังคติราชสดับเช่นนั้นแล้ว เกิดความสลดสังเวช กลัวที่จะต้องไปบังเกิดในมหานรก จึงตรัสว่า "บัด นี้ ข้าพเจ้าแทบจะล้มเหมือนต้นไม้ที่ถูกตัด ข้าพเจ้าหลงผิดจึงไม่รู้จักทิศ ท่านฤๅษี ขอท่านจงเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า เสมือนกับน้ำดื่มแก้กระหายในเวลากระหายน้ำ ขอท่านจงเป็นเหมือนเกาะเป็นที่อาศัยในห้วงมหาสมุทร และขอท่านจงเป็นเหมือนประทีปส่องสว่างในที่มืดของข้าพเจ้าด้วยเถิด
มงคลที่ ๒ คบบัณฑิต - มีไมตรีจิตต่อกัน
ข้าแต่พญาหงส์ ในยามผลดกนกทั้งหลายก็ชุม แต่พอผลวายนกทั้งหลายก็ไปไม่เหลียวแล ตอนมีผลประโยชน์ใครๆ ก็เห็นคุณค่า แต่ตอนที่หมดประโยชน์ ใครบ้างเล่าจะนึกถึงผู้มีอุปการคุณ เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ต้นไม้นี้เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งญาติของเรา เราต้องการเป็นอยู่เพียงเท่านี้ ขอเพียงได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับต้นไม้ที่มีพระคุณกับเราเท่านั้น
ชีวิตกลับมาสดใส เพราะพบที่พึ่งภายใน
แต่ทันใดนั้นใจของฉันก็ถูกดึงดูดจากภายใน ไปหยุดอยู่ที่ศูนย์กลางกายอย่างที่ฉันได้เรียนมาโดยอัตโนมัติ แล้วฉันก็เห็นองค์พระผุดขึ้นมา องค์ใหญ่เหมือนดวงตะวัน ขยายคลุมตัวของฉัน เหมือนอยู่ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ ใบหน้าขององค์พระ ท่านมองมาที่ฉันอย่างมีเมตตา แล้วฉันก็ได้ยินเสียงของพระดังขึ้นมาพร้อมกันว่า “keep your mind.. keep your mind” ตั้งสติไว้ ตั้งสติไว้
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๘ ( ผดุงคุณธรรม )
บุคคลนั่งหรือนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่พึงหักรานกิ่งของต้นไม้นั้นเพราะผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นผู้ชั่วช้า ข้าแต่มหาราชเจ้า ถ้าบุคคลหักกิ่งต้นไม้ที่ตนได้บริโภคชื่อว่าเป็นผู้ประทุษร้ายมิตรไซร้ ผู้ที่ประทุษร้ายต่อผู้มีพระคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม จะเป็นคนเช่นไรเล่า
ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 14
“มะม่วงอีกต้นยังคงความสดเขียวเหมือนเดิม ไม่มีใครมารุกราน เพราะไม่มีผล แต่ต้นนี้ถูกหักกิ่งรานใบ เพราะอาศัยผลเป็นเหตุ แม้ราชสมบัตินี้ก็เช่นกับต้นไม้มีผล ส่วนบรรพชาเป็นเช่นกับต้นไม้ที่ไร้ผล ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการของใคร ภัยย่อมมีแก่ผู้มีความกังวล แต่ไม่มีแก่ผู้ไม่มีความกังวล ตัวเรานี่แหละ จะเป็นเหมือนต้นไม้ที่ไร้ผล เราจักสละราชสมบัติออกบวช”
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๓ ( ปัญญาประเสริฐกว่าทรัพย์ )
เสนกะทูลว่า " ข้าแต่พระมหาราชเจ้า มโหสถยังเด็ก แม้ทุกวันนี้ปากของเธอยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มโหสถจะรู้อะไร ฝูงนกบินไปบินมาตามต้นไม้ในป่าที่มีผลดกฉันใด ชนเป็นอันมากย่อมคบหาสมาคมผู้มั่งคั่งมีโภคทรัพย์มาก เพราะความต้องการด้วยทรัพย์ ฉันนั้น เพราะฉะนั้น คนมีสิริสมบัติเท่านั้นเป็นคนประเสริฐ "
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๗ ( เสด็จออกบรรพชา )
เมื่อพระโอรสพระธิดาทอดพระเนตรเห็นพฤกษชาติเผล็ดผลในป่าใหญ่ อยากเสวยผลไม้เหล่านั้น ต้นไม้เหล่านั้นก็น้อมกิ่งลงมาให้พระโอรสพระธิดาสามารถเด็ดเสวยได้เองอย่างง่ายด้วย พระนางมัทรีราชเทวีทอดพระเนตรสิ่งอัศจรรย์นี้ รู้ทันทีว่า เป็นเพราะอำนาจแห่งทานบารมีของพระเวสสันดร
ลูกผู้ชายต้องไม่ได้สมบัติ
เขาก็ร้องอยากจะไปแต่บ้านลุงพอเจอหน้าลุงและป้าเขาก็เรียกลุงป้าว่าพ่อแม่ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่าเขาเป็นลูกชายของลุงป้าที่กลับชาติมาเกิด เขาจึงพาไปดูต้นไม้ที่เขาปลูกไว้คือต้นมะขามและพาไปดูเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ เขา ไปจับเสื้อลายสก๊อตที่เขาเคยใส่ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับตะลึง เพราะเขาพูดถูกหมดทุกอย่าง
Case Study
ตัวอย่างเรื่องของผลแห่งบุญจากการบวช...ชายคนหนึ่งไม่เชื่อเรื่องบาปบุญ นรกสวรรค์ เป็นคนเจ้าชู้ อีกทั้งยังมีกรรมปาณาติบาต โชคดีที่เขามีลูกชายที่ได้เคยบวชในพระพุทธศาสนา ต่อมาเขาเสียชีวิต ตายแล้ว เขาเป็นอย่างไร...ชายอีกคนหนึ่ง ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ในช่วงบั้นปลายชีวิตหลังปลดเกษียณ จะชอบปลูกต้นไม้ เลี้ยงนกเขา นกหงส์หยก เมื่อตายแล้ว เขาเป็นอย่างไร...ที่นี่...มีคำตอบ...
จิตอยู่ในกาย
พระพุทธศาสนาไม่ถือว่าจิตเป็นตัวตนที่แท้จริงแต่ถือว่าเป็นสิ่งที่อาศัยเหตุปัจจัยหลายอย่างทำให้เกิดขึ้น ตามกฎแห่งอนัตตา (ทุกสิ่งไม่ตัวตนที่จริงแท้) คือไม่มีตัวตนอันเป็นแก่น เหมือนต้นไม้ย่อมอาศัยดิน ราก ใบ แสงแดด อากาศ กิ่ง ทำให้มีตัวตนที่เรียกว่าต้นไม้ขึ้น