ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 148
เมื่อมาถึงประตูชั้นแรก เกวัฏก็เอ่ยถามคนเฝ้าประตูว่า “ท่านมโหสถอยู่หรือไม่ เราจะพบได้อย่างไรกัน” ว่าแล้วก็รีบเดินตรงไป แต่กลับถูกยามเฝ้าประตูกั้นไว้ พลางกล่าวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “นี่อย่าส่งเสียงเอ็ดอึงไปสิ ถ้าท่านต้องการจะมาหาท่านผู้สำเร็จราชการ ก็จงมานิ่งๆ วันนี้ท่านบัณฑิตดื่มเนยใสอย่างแรง ฉะนั้นท่านจะพูดเสียงดังไม่ได้เป็นอันขาด”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 147
พราหมณ์เกวัฏจึงได้เหยียบย่างเข้าสู่มิถิลานคร ได้เห็นหนทางที่ประดับตกแต่งไว้ดีแล้ว จึงคิดว่า พระเจ้าวิเทหราชคงรับสั่งให้เตรียมการต้อนรับคณะของตนเป็นพิเศษ คิดแล้วก็ยิ่งบังเกิดความปีติยินดีว่า “โอ...นี่พระเจ้าวิเทหราชทรงให้เกียรติเราถึงเพียงนี้เชียวหรือ พระองค์เป็นถึงจอมราชาในชมพูทวีป แต่บัดนี้กลับกลายเป็นผู้ที่น่าสงสารที่สุด หลุมพรางตื้นๆเพียงเท่านี้ พระองค์ยังพลาดท่าตกลงไปได้ ทีนี้ล่ะ...ถึงคราวเราบ้าง จะแก้แค้นให้สาแก่ใจทีเดียว”
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 146
ฝ่ายมโหสถบัณฑิตทราบข่าวนั้นแล้ว ก็เริ่มวิตกถึงการมาของพราหมณ์เกวัฏ เพราะยังไม่รู้แน่ว่า เบื้องหลังการมาของพราหมณ์เกวัฏ จะมาด้วยมีวัตถุประสงค์อื่นใดเคลือบแฝงอยู่หรือไม่ ดังนั้นเพื่อต้องการรู้ความจริง มโหสถจึงได้รีบส่งข่าวไปยังสหายผู้ที่แฝงตัวอยู่ในราชสำนักของพระเจ้าจุลนี เพื่อสอบถามถึงเหตุที่มานั้น
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 145
ไม่นานเท่าไหร่ ชื่อเสียงของพระนางปัญจาลจันทีก็เลื่องลือไปถึงพระราชสำนักของพระเจ้าวิเทหราช กระทั่งไปถึงพระกรรณของพระเจ้าวิเทหราช พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับข่าวที่โจษขานเกรียวกราวไปทั่วพระนคร ก็ทรงใคร่จะสดับเพลงขับนั้นบ้าง ท้าวเธอจึงให้เรียกคณะนักขับร้องจากปัญจาลนครมาเข้าเฝ้า
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 144
ตั้งแต่นั้นมา ในยามค่ำคืนดึกสงัด เสียงขับลำนำขับขานยกยอพระสิริโฉมของพระราชธิดาปัญจาลจันที ก็ดังกังวานแว่วมาจากต้นไม้ใหญ่ในพระนคร ครั้นใกล้รุ่งก็ปรากฏคล้ายเสียงกังสดาลดังก้องไปในอากาศ แล้วเสียงนั้นก็ค่อยๆหายเงียบไป ชาวปัญจาลนครทั้งหลาย เมื่อได้ยินเสียงเพลงขับเลื่อนลอยมาแต่ไกลในยามราตรี ไพเราะเสนาะจับจิตจับใจยิ่งนัก ก็พากันพิศวง งงงวยไปตามๆกัน และครั้นรุ่งสางก็ยังได้ยินเสียงกังสดาลดังกังวานแว่วอีก
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 143
พระเจ้าจุลนีทรงสดับถ้อยแถลง อันยืดยาวของพราหมณ์เกวัฏ อย่างสนพระทัย และดูเหมือนว่าจะทรงเห็นคล้อยตามอุบายของเกวัฏไปเสียทุกอย่าง ทั้งนี้เพราะความแค้นนั้นยังปรากฏอยู่ในพระหทัยมิรู้หาย ดังนั้นถ้าจะมีช่องทางใดที่จะทรงแก้แค้นได้ พระองค์ก็ย่อมจะเห็นด้วยเป็นธรรมดา
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 142
ยามใด ที่พราหมณ์เกวัฏส่องดูใบหน้าของตนบนกระจก มองเห็นรอยแผลเป็นที่หน้าผากทีไร ก็ให้เป็นเดือดเป็นแค้น จนไม่อาจที่จะสกัดกลั้นเพลิงโทสะที่เดือดพล่านอยู่ภายในใจได้ ถึงกับขบกรามแน่น แล้วเปล่งเสียงคำรามออกมาดังๆ ด้วยแรงแค้นแรงอาฆาตที่สุมแน่นอยู่เต็มหัวอก
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 141
พราหมณ์อนุเกวัฏกลับเข้าไปในฐานทัพแล้ว ก็ตะโกนก้องร้องประกาศแก่พวกพ้องว่า “พระเจ้าจุลนีหนีไปแล้ว...พวกเรารีบหนีกันเร็ว ขืนอยู่จักต้องตายไปตามๆกัน ไปเถิดพวกเรารีบหนีเร็วเข้า” บรรดาผู้สืบราชการลับ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนร้อง ก็พากันตะโกนบอกต่อๆกันไป จนเสียงดังระเบ็งเซ็งแซ่ไปทั้งกองทัพปัญจาละ
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 140
เมื่อทรงรู้ว่าพระองค์เสด็จมาเพียงลำพังพระองค์เดียว ก็ทรงพรั่นพรึงพระหฤทัย ทรงชักม้าพระที่นั่งเพื่อจะหยุดรอดูพราหมณ์อนุเกวัฏ แต่ปรากฏว่าม้าพระที่นั่งเกิดบังคับไม่อยู่ ยิ่งรั้งยิ่งดึงก็ยิ่งห้อตะบึงไปท่าเดียว พระองค์จึงต้องทรงปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 139
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้พระเจ้าจุลนีถึงกับทรงตกตะลึง อึดอัดพระทัยเป็นอย่างยิ่ง พระพักตร์เผือดลง พระเนตรฉายแววแห่งความสะดุ้งกลัว ท้าวเธอมิได้ตรัสสิ่งใด รีบเสด็จลุกจากพระแท่น แล้วเข้าสู่พระตำหนักรโหฐานทันที ฝ่ายพราหมณ์อนุเกวัฏก็ลุกตามเสด็จพระองค์ไปด้วย ฝ่ายพระราชาที่มาประชุมเหล่านั้นต่างก็แยกย้ายกลับไปโดยที่มิทราบต้นสายปลายเหตุ