คนเช่นอสูร คนเช่นเทวดา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลในโลก มี ๔ จำพวก คือบุคคลเช่นกับอสูร มีคนเช่นกับอสูรเป็นบริวาร บุคคลเช่นกับอสูร มีคนเช่นกับเทวดาเป็นบริวาร บุคคลเช่นกับเทวดา มีคนเช่นอสูรเป็นบริวาร และบุคคลเช่นกับเทวดา มีคนเช่นกับเทวดาเป็นบริวาร
ธุดงค์ เป็นวัตร แต่ไม่เป็นศีล
“ธุดงค์” เป็นวัตรไม่ใช่ศีล เป็นข้อแนะนำให้ปฏิบัติเพื่อฝึกตัว ไม่ใช่ข้อบังคับว่าต้องทำ แบ่งเป็น 3 หมวด คือ จีวร อาหาร และ สถานที่
ศีลดี คือ อะไร ?
ศีลมีประมาณเท่าใด ศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว คือ ศีลที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไท
บุญเกิดขึ้นจากการให้ทาน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าสัตว์ทั้งหลายพึงรู้ผลแห่งการจำแนกทาน เหมือนอย่างเรารู้ไซร้ สัตว์ทั้งหลายยังไม่ให้แล้วก็จะไม่พึงบริโภค อนึ่ง ความตระหนี่อันเป็นมลทิน
ภิกษุผู้ยังป่าให้งาม
พร้อมพระสาวกเถระทั้งหลาย พระสารีบุตรถามพระอานนท์ พระเรวตะ พระอนุรุทธะ พระมหากัสสปะ พระมหาโมคคัลลานะ ว่าป่าโคสิงคสาลวันจะพึงงามด้วยภิกษุเช่นไร
ผู้มีราตรีเดียวเจริญ
บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง สิ่งใดล่วงไปแล้ว สิ่งนั้นก็เป็นอันละไปแล้ว และสิ่งที่ยังไม่มาถึงก็เป็นอันยังไม่ถึง ก็บุคคลใดเห็นแจ้งธรรมปัจจุบันไม่ง่อนแง่นไม่คลอนแคลนในธรรมนั้น ๆ
อานิสงส์เจริญเมตตา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย 11 ประการ คือ 1. หลับก็เป็นสุข 2. ตื่นก็เป็นสุข.....
ทานของสัตบุรุษ
สัตบุรุษย่อมให้ทานด้วยศรัทธา (ทำให้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และเป็นผู้มีรูปสวยงาม น่าดู น่าเลื่อมใส ประกอบด้วยผิวพรรณงามยิ่งนักในที่ที่ทานนั้นเผล็ดผล (บังเกิดขึ้น))
ผู้ให้คือผู้ชนะ
ดวงจันทร์ปราศจากมลทิน โคจรไปในอากาศ ย่อมสว่างกว่าหมู่ดาวทั้งปวงในโลก ด้วยรัศมี ฉันใด บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยศีล มีศรัทธา ก็ฉันนั้น ย่อมไพโรจน์กว่าผู้ตระหนี่ทั้งปวง
ทรงพยากรณ์คติของสาวกทำไม
ดูก่อนอนุรุทธะทั้งหลาย เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ตถาคตเห็นอำนาจประโยชน์อะไรอยู่ จึงพยากรณ์สาวกทั้งหลายทำกาละล่วงลับไปแล้ว ใ