ทำไมคนจึงต่างกัน ?
สุภมาณพ โตเทยยบุตร พอนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรหนอแล เป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้พวกมนุษย์ที่เกิดเป็นมนุษย์อยู่ ปรากฏความเลวและความประณีต
กาลัณฑุกชาดก ชาดกว่าด้วยมารยาทส่อสกุล
กฏาหกผู้เป็นบุตรของทาสในเรือนพาราณสีเศรษฐี เขาได้แอบหนีไปพักอาศัยอยู่กับปัจจันตเศรษฐีแถบชนบทโดยการโกหกว่าตนเองเป็นบุตรของพาราณสีเศรษฐี จนปัจจันตเศรษฐีไว้วางยกลูกสาวของตนให้เป็นภรรยาของชายหนุ่ม
เห็นสมณะ
การเห็นสมณะของผู้มีจิตเลื่อมใสนั้น อาจแบ่งออกได้เป็น ๓ ระดับ คือ...
สามเณรนิโครธ (๓)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บรรพชิตผู้มีศีลทั้งหลาย เข้าไปหาสกุลใด มนุษย์ในสกุลนั้นย่อมประสบบุญเป็นอันมาก โดยฐานะ ๕ ประการ คือ สมัยใด บรรพชิตผู้มีศีลเข้าไปหาสกุล จิตของพวกมนุษย์ ย่อมเลื่อมใส สมัยนั้น สกุลนั้นชื่อว่าปฏิบัติปฏิปทาที่ยังสัตว์ ให้เป็นไปพร้อมเพื่อสวรรค์
พระปิลินทวัจฉะ (๒)
หมู่สัตว์ที่เกิดมาแล้วจำจะต้องตายในโลกนี้ หากได้ทำกรรมอันใดไว้คือบุญและบาป บุญ และบาปทั้งสองประการนั้นแลเป็นสมบัติของเขา และเขาจะพาเอาบุญและบาปนั้นไป อนึ่ง บุญและบาปย่อมเป็นของติดตามเขาไป ประดุจเงาติดตามตนไป เพราะฉะนั้น บุคคลพึงทำกัลยาณกรรมสะสมไว้เป็นสมบัติในปรโลก ด้วยว่า บุญทั้งหลายย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในปรโลก
ทานของสัตบุรุษ
สัตบุรุษย่อมให้ทานด้วยศรัทธา (ทำให้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และเป็นผู้มีรูปสวยงาม น่าดู น่าเลื่อมใส ประกอบด้วยผิวพรรณงามยิ่งนักในที่ที่ทานนั้นเผล็ดผล (บังเกิดขึ้น))
พระภัททิยเถระกับการสร้างบุญพิเศษอย่างหนึ่งให้เต็มที่เต็มกำลัง
ในการทำบุญที่ส่งผลอลังการนั้น ไม่ใช่สิ่งผูกขาดเฉพาะกับบุคคลในพระไตรปิฎกเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้มีบุญในปัจจุบันได้เช่นกัน เพราะบุญย่อมส่งผลดีแก่ผู้ทำโดยไม่เลือกยุคสมัย
กรรมของการรังแกสัตว์
สตรี บุรุษ คฤหัสถ์หรือบรรพชิต ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง ใครทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
วิบากกรรมของการพูดเพ้อเจ้อ
มีดที่ลับคมดีแล้ว ถึงจะเหมือนยาพิษที่ร้ายแรง ก็ไม่ทำให้ตายสนิทในทันทีทันใดเหมือนกับคำพูดชั่ว
มนุษย์ในชมพูทวีป โลกแห่งความแตกต่าง
มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความแตกต่างของแต่ละบุคคล เพราะสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน